แนะนำอำเภอท่องเที่ยว
อำเภอปลาปาก
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าอำเภอปลาปากเป็นอำเภอที่ผมเติบโตมาตั้งแต่เด็ก บ้านของผมอยู่ที่นี้ ผมเรียนระดับประถม มัธยมถถึง ม.4 แล้วก็ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพตามวิถีชีวิตนักฟุตบอลกีฬาคุ๋ชีวิตของผม ย้อนกลับมาตัวผมนั้นมีความผูกพันธ์กับอำเภอปลาปากนี้อย่างมากเนื่องจากเป็นอำเภอที่ทุกคนมีน้ำใจไมตรีต่อกัน มีประเพณีที่สวยงาม ซึ่งวิถีชีวิตของชาวอำเภอปลาปากอยู่กันอย่างเรียบง่าย ชาวบ้านส่วนมากจะมีอาชีพเกษตรกร ทำนาเกี่ยวข้าว นั้นแสดงให้เห็นถึงการดำเนินชีวิตที่ต้องพึงพาตัวเองเป็นหลัก เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าต่างจังหวัดนั้นการงานนั้นหาทำยากต้องอาศัยการทำนาเป็นหลักในการเลี้ยงชีพ งั้นผมขอแนะนำประวติอำเภอปลาปากเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักอำเภอปลาปากบ้านผมมากขึ้นนะครับ ดังนี้
ประวัติ อำเภอปลาปาก
สถานที่ตั้งรกรากของชาวปลาปาก นับว่าเป็นชนเผ่าที่น่าสนใจมิใช่น้อยเลยทีเดียว ความเป็นมาของบรรพบุรุษของชาวปลาปากเดิมมีถิ่นที่อยู่ในเขตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่เมืองมหาชัย “อยู่ในแขวงคำม่วน”
พระทองสัมฤทธิ์ที่กล่าวถึงในตำนานนี้มีอยู่จริง และประดิษฐานอยู่ที่วัดคณิศรธรรมิการาม
คำว่า “เว้า” นี้เป็นภาษาท้องถิ่นซึ่งความหมายก็คือ พูด ตำนานเกี่ยวกับ ปลาเว้า มีประวัติความเป็นมาว่าบริเวณนี้ในฤดูฝนมีน้ำหลาก จึงทำให้มีปลาชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายปลาตะเพียนทองมารวมอยู่เป็นจำนวนมาก และส่งเสียงร้องอึงคะนึงคล้ายเสียงคนพูดกัน ชาวบ้านจึงพากันเรียกขานบริเวณแห่งนี้ว่า ปลาเว้า(ปลาพูด) คำว่า “ปาก” นี้ในภาษาถิ่นอีสานเป็นคำกริยา หมายถึง พูด ดังนั้น ปลาปากก็คือ ปลาพูดหรือ ปลาเว้านั่นเอง ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อว่า ปลาปากตั้งแต่นั้นมา
ปลาปาก เดิมเป็นตำบลหนึ่งขึ้นอยู่กับอำเภอเมืองนครพนม ต่อมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2507 ทางราชการได้ยกฐานะขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ ประกอบด้วย 3 ตำบล คือ ตำบลปลาปาก ตำบลหนองฮี และตำบลกุตาไก้ได้แต่งตั้งร้อยโทวิชัย บุญรัตนผลิน รักษาราชการในฐานะปลัดอำเภอหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอปลาปาก ต่อมาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2514 จึงได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอปลาปาก ประกอบด้วย 8ตำบล ตำบลปลาปาก ตำบลหนองฮีตำบลกุตาไก้ ตำบลนามะเขือ ตำบลโคกสูง ตำบลมหาชัย ตำบลโคกสว่าง และตำบลหนองเทาใหญ่ (ตำบลหนองเทาใหญ่ยกฐานะขึ้นเป็นตำบลเมื่อปี 2521)
สถานที่ท่องเที่ยว ปลาปาก อำเภอปลาปาก
สถานที่น่าท่องเที่ยวที่สำคัญ ๆ ของอำเภอปลาปากมีดังนี้
1) วัดธาตุมหาชัย ตั้งอยู่ที่บ้านมหาชัย หมู่ที่ ๒ ตำบลมหาชัย เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุมหาชัย ซึ่งเป็นปูชนียสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดนครพนมและชาวอำเภอปลาปากให้ความเคารพนับถือ เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระอรหันต์ โดยมีหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ ( อ่านประวัติหลวงปู่คำพันธ์ ที่นี่ ) อดีตเจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัยเป็นผู้นำในการก่อสร้างองค์พระธาตุ ภายในมีพระพุทธรูปที่แกะสลักด้วยไม้สะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเคารพกราบไหว้อยู่เสมอ ในเดือนมีนาคมของทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุมหาชัย
2) ศูนย์วัฒนธรรมวัดคณิศรธรรมิการาม
ตั้งอยู่ที่บ้านปลาปากหมู่ที่ 13 ตำบลปลาปาก แต่ก่อนนี้เป็นพระอุโบสถที่เก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมมากภายในมีพระพุทธรูปศิลปะสมัยเชียงแสนหลายองค์ ปัจจุบันนี้พระอุโบสถหลังเก่าได้รื้อเนื่องจากทรุดโทรมมาก แต่พระพุทธรูปก็ยังเก็บไว้ภายในวัด และได้สร้างศูนย์ส่งเสริมศิลปหัตถกรรมขึ้นมาแทนที่บริเวณดังกล่าว คือ หัตถกรรมการทอผ้ามุก โดยมีพิพิธภัณฑ์อยู่ภายในอาคารดังกล่าวด้วยมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของสมาชิกศูนย์ฯ พระครูสุนันท์ธรรมสถิตเจ้าอาวาสวัดคณิศรธรรมิการามและดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอปลาปากเป็นผู้ดำริในการจัดตั้งและผู้ดูแล พระครูสุนันท์ธรรมสถิตนี้ได้รับรางวัลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับจังหวัดในสาขาภูมิปัญญาชาวบ้านด้านการจัดการสวัสดิการและธุรกิจชุมชน และได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่างของจังหวัดนครพนม ประจำปี 2547
3) ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านทันสมัยในพระบรมราชินูปถัมภ์
ตั้งอยู่ที่บ้านทันสมัย หมู่ที่ 7 ตำบลมหาชัย มีการส่งเสริมอาชีพการทอผ้า ไหม ผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ และยังเป็นที่ตั้งของโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินาถ เพื่อเน้นการอนุรักษ์ต้นน้ำลำธาร หยุดการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้
4) สวนรุกขชาติวังปอพาน
ตั้งอยู่ริมถนนสายปลาปาก – กุรุคุ ห่างจากตัวอำเภอปลาปากประมาณ 3 กิโลเมตร มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เรือนแพ และซุ้มที่นั่งพักผ่อนคลายเครียด บรรยากาศดีสวยงามและเป็นธรรมชาติ
5) วัดป่ามหาชัย (อรัญญคาม) เป็นสถานที่สำหรับการอบรมปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานแห่งหนึ่งประจำจังหวัดนครพนม เป็นสถานที่สงบเงียบ ร่มรื่น มีศาลาโบสถ์ที่งดงาม
วัดป่ามหาชัย (อรัญญคาม) ตำบลมหาชัย สถานที่ปฏิบัติธรรม
ของดีศรีปลาปาก
………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ประวัติการสร้างพระธาตุมหาชัย
สถานที่ตั้ง
วัดธาตุมหาชัย บ้านมหาชัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
ความเป็นมา
พระธาตุมหาชัยองค์เดิม สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2518 โดยดำริของหลวงปู่ หลังจาก ที่หลวงปู่ได้นำพาญาติโยมมาสร้างบ้านมหาชัย และสร้างวัดโฆษการาม ต่อมาจึงดำริที่จะสร้างพระธาตุขึ้น เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวพุทธ โดยได้รับความร่วมมือจากญาติโยม ชาวตำบลมหาชัยทุกหมู่บ้านได้นำเอาหินลูกรัง และดินมากองรวมกันให้เป็นเนินสูงเพื่อจะให้เป็นฐานพระธาตุ จนได้เนินสูงพอสมควร ต่อมาได้มีหน่วยงานของทางราชการมาช่วย เช่น หน่วยงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (ร.พ.ช.) ได้นำรถแทรกเตอร์มา ช่วยทำฐานพระธาตุเพียงหยาบๆ จนได้ฐานพระธาตุกว้าง 17 เมตร ยาว 23 เมตร สูง 4.50 เมตร การสร้างพระธาตุหลวงปู่ ได้ดำเนินการสร้างแบบค่อยเป็นค่อยไป อาศัยกำลังจากญาติโยมและพระภิกษุสามเณรในวัด
พ.ศ. 2512 ศิษย์หลวงปูคนหนึ่งคือพระมหาเฉวต วชิรญาโณ จำพรรษาอยู่ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาวได้เดินทางมาเยี่ยมนมัสการหลวงปู่และได้นำเอาพระอรหันตสารีริกธาตุ ของพระอัญญาโกณฑัญญะปฐมสาวก ถวายแด่หลวงปู่ เพราะเลื่อมใสเห็น ว่าหลวงปู่กำลังสร้าง พระธาตุ
พ.ศ. 2514 หลวงปู่ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์พระธาตุขึ้น โดยได้อาราธนาพระเทพรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดนครพนมในสมัยนั้น มาเป็นประธานในพิธีสงฆ์ ทางฝ่ายบ้านเมืองได้เชิญ พลตรี ยง ณ นคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธาน แต่ท่านผู้ว่าฯ ติดราชการจึงให้พันตรี อรุณ สังฆบรรณ ปลัดอำเภอ ผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอปลาปาก มาทำหน้าที่เป็นประธานแทน เมื่อเสร็จจากพิธิวางศิลาฤกษ์แล้ว ได้ลงมือก่อสร้างองค์พระธาตุโดยพระมหาเฉวต วชิรญาโณ เป็นช่าง และนายทองดี ศรีสุวงค์ เป็นผู้ช่วย ได้ก่อสร้างขึ้นมาจนเป็นพระธาตุรูป 8 เหลี่ยม สูงประมาณ 7 เมตร ในการก่อสร้างองค์พระธาตุได้อาศัยกำลังทรัพย์จากญาติโยมชาวตำบลมหาชัย และตำบลใกล้เคียงได้บริจาคในรูปปัจจัยบ้าง วัสดุก่อสร้างบ้าง เช่น หิน ซึ่งถากเป็นแผ่นๆ กว้าง 15 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร หนา 10 เซนติเมตร
พ.ศ. 2515 นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมสมัยนั้น เดินทางมาตรวจเยี่ยมชุดคุ้มครองตำบลมหาชัย ท่านได้เห็นพระธาตุ และเห็นความพร้อมเพรียงของชาวบ้านที่ช่วยกันก่อสร้างพระธาตุ จึงเกิดความเลื่อมใสศรัทธาได้เข้ามากราบนมัสการ หลวงปู่และ ได้ปวารณาตัวขอเป็นผู้อุปถัมภ์ ต่อมาท่านได้ให้นายช่างหน่วยเร่งรัดพัฒนาชนบทเขียนแบบแปลนพระธาตุขึ้นนำเสนอหลวงปู่ และได้ดำเนินการก่อสร้างองค์พระ ธาตุตามแบบแปลนจนเป็นผลสำเร็จสวยงาม
พ.ศ. 2517 พลตำรวจโทวิศิษฐ์ เดชกุญชร (ยศในขณะนั้น) ราชองครักษ์ในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมค่ายคุ้มครองตำบล (ช.ค.ต.) และชุดปฏิบัติการช่วยเหลื่อประชาชน (ป.ช.ป.) ท่านได้มาเห็นองค์พระธาตุก็เกิดความเลื่อมใส ได้ถามประวัติความเป็นมาขององค์พระธาตุจนถึงการก่อสร้าง และกำหนดวันแล้วเสร็จ หลังจากนั้นท่านได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จ พระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงนำพระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ที่องค์พระธาตุมหาชัย และทรงเวียนเทียนรอบ องค์พระธาตุด้วยพระองค์เอง พร้อมด้วย ข้าราชบริพาร และพสกนิกรฯ
ข้อมูลจำเพาะ (พระธาตุองค์เดิม)
ฐานและองค์พระธาตุรูปทรงแปดเหลี่ยม ฐานพระธาตุกว้าง 32 เมตร ยาว 32 เมตร มี 2 ชั้น ชั้นล่างสูง2.50 เมตร ชั้นบนสูง 2 เมตร ฐานพระธาตุภายนอกใช้หินแม่รังแผ่นโต ๆ นำมาถากเป็นแผ่นจำนวนทั้งหมด 5,320 แผ่น แต่ละแผ่นกว้าง 15 ซ.ม. ยาว 30 ซ.ม. หนา 10 ซ.ม. องค์พระธาตุสูง 10.50 เมตร รวมทั้งฐานสูง 15.00 เมตร รวมทั้งฉัตร สูง 16 เมตร
ประวัติองค์พระธาตุองค์ปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2536 หลวงปู่ได้ดำริที่จะสร้างองค์พระธาตุเจดีย์ครอบองค์เดิม จึงได้ทำหนังสือถึงสำนักพระราชวังเพื่อขออนุญาตสร้างพระธาตุเจดีย์ครอบองค์เดิมต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชสมบัติครบ 50 ปี ในปี พ.ศ. 2539 หลังจากนั้นจึงได้ดำเนินการก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นในลักษณะองค์เดิม คือมีรูปทรงแปดเหลี่ยม โดยครอบองค์เดิม ระยะห่างจากองค์เดิมกว้าง 1 เมตร พระธาตุที่สร้างครอบนี้สูงรวมฐาน 37เมตร ที่คงรูปทรงแปดเหลี่ยมนั้นมีความหมายเป็นปริศนาธรรมของหลวงปู่ คือ พระธาตุรูปทรงแปดเหลี่ยม หมายถึงมรรคมีองค์แปด และที่สูง 37 เมตร หมายถึง ธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ 37 ประการ (โพธิปักขิยธรรม37 ประการ) มรรค 8 มี สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ, สัมมาสังกัปปะ ความดำริชอบ, สัมมาวาจา เจรจาชอบ,สัมมากัมมันตะ ทำการงานชอบ, สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีวิตชอบ, สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ,สัมมาสติ ระลึกชอบ, สัมมาสมาธิ ตั้งใจชอบ โพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ได้แก่ สติปัฏฐาน 4, สัมมัปปธาน 4 ,อิทธิบาท 4, อินทรีย์ 5, พละ 5, โพชฌงค์ 7 , มรรคมีองค์ 8 ,องค์พระธาตุมหาชัยองค์ใหม่ที่สร้างครอบองค์เดิมนั้น สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวฯ โปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชสยามกุฎราชกุมาร ผู้แทนพระองค์เสด็จยกฉัตรพระธาตุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2539
พิพิธภัณฑ์วัดคณิศรธรรมมิการาม
ตั้งอยู่ที่วัดคณิศรธรรมมิการาม บ้านปลาปาก หมู่ที่ 2 อยู่ทางด้านทิศใต้ของตัวอำเภอ เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของจังหวัดนครพนม ประจำปี 2547 โดยมีท่านพระครูสุนันท์ธรรมสถิต เป็นเจ้าอาวาส เป็นผู้ดำริจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ แต่เดิมวัตถุโบราณที่จัดไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ในอุโบสถหลังเก่าซึ่งชำรุดทรุดโทรมมาก จึงได้รื้อและจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งอยู่ในอาคารเดียวกับศูนย์ส่งเสริมศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยมีกลุ่มแม่บ้านทอผ้ามุกทำการในอาคารแห่งนี้เป็นประจำ และเปิดให้ชมทุกวัน
สิ่งที่นำเสนอในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีทั้งพระพุทธรูป เหรียญพระ เงินโบราณสกุลต่าง ๆ ทั้งเหรียญกษาปณ์ และธนบัตร ไหโบราณ เครื่องใช้ของคนสมัยโบราณ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คือพระทองสัมฤทธิ์เก่าแก่อยู่ที่นี่ด้วย
ที่มา จากหนังสือของดีศรีปลาปาก
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สงกรานต์ อำเภอปลาปาก ปี 2554
ประเพณีสงกรานต์ อำเภอปลาปาก ประจำปี 2554
สงกรานต์ที่อำเภอปลาปากมีทั้งประเพณีประจำปี ที่จะจัดขึ้นทุกวันที่ 14 เมษายน ของทุกปี วันงานจะมีการแห่เทียน มีกองยาว การฟ้อนรำของชาวบ้าน รวมถึงการร่วมเดินขบวนของหน่วยราชการทั้งอำเภอ ซึ่งในวันนั้นจะมีการประกวดนางสงกรานต์ที่นำเอาสาวสวยของแต่ละตำบลมาประชันความสวยกัน (อยากจะบอกว่าแม่ผมเป็นกรรมตัดสินมาหลายปีแล้ว) รับรองได้ว่าสาวๆที่อำเภอปลาปากนั้นสวยโดนใจแน่นอน และที่ขาดไม่ได้เมื่อถึงวันสงกรานต์เมื่อไร ต้องมีการจัดแข่งขันฟุตบอลหน้าอำเภอ ผมได้ร่วมแข่งมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ปีหลังตั้งแต่มาเรียนที่ กทม.ก็ไม่เคยได้กลับไปเล่นเท่าไร ก็นั้นแหละครับถ้าทุกคนได้ผ่านไปแถวจังหวัดนครพนม อย่าลืมแวะไปเที่ยวอำเภอปลาปากนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวัง หรือถ้าใครไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนในอำเภอปลาปาก ติดต่อไปที่บ้านสิริ อยู่หลักอนามัยปลาปาก ถามคนแถวนั้นได้ บ้านผมเอง
วัชรพงศ์ สิริ